สัตว์สมัยแรกเริ่มสิ่งมีชีวิตสมัยแรกเริ่มนั้นเกิดขึ้นในโลกเมื่อกว่า 1,500 ล้านปีมาแล้ว ในขั้นแรกมีเพียงสัตว์(ชั้นต่ำ)ง่ายๆเกิดขึ้นในทะเลก่อน เราไม่สามารถทราบรูปร่างของมันได้เลย ต่อมาเมื่อ 750 ล้านปีล่วงมา จึงมีสัตว์ต่างๆเกิดขึ้นในโลก ได้แก่ หนอน สัตว์เปลือก (หอย กุ้ง ปู ปลา ฯลฯ)และสัตว์ทะเลอื่นๆเกิดขึ้น โดยปลาตัวแรกๆนั้นเกิดขึ้นในโลกเมื่อประมาณ 500 ล้านปีล่วงมา สัตว์ส่วนมากที่เคยมีชีวิตในสมัยดึกดำบรรพ์เป็นล้านๆปีมักจะสูญพันธุ์ลงไป เพราะการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศสภาพแวดล้อม เช่น ไดโนเสาร์
ไดโนเสาร์มีหลายเผ่าพันธุ์ ทั้งประเภทกินเนื้อและกินพืชเป็นอาหาร ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับสมญานามว่าเป็นนักล่าโดยเฉพาะทีแร็กซ์และแร็พเตอร์ นับว่าเป็นนักล่าในยุคจูลาสติค ส่วนฝ่ายล่าอาหารจากพืชก็จะมีสิ่งป้องกันบางอย่างเป็นเกราะคุ้มครองตนเอง เช่น หนามที่แหลมคม พวกนี้จะไม่ทำอันตรายใครถ้าไม่ถูกรบกวนก่อน แต่แล้วสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ก็ต้องสิ้นสุดลงเพราะไม่อาจทนความร้อนจากหินอุกกาบาตที่ถล่มเข้าโลกได้ โลกเต็มไปด้วยความมืดมิดไม่มีแสงสว่าง เป็นเช่นนั้นอยู่หลายปีจนโลกเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ และต่อมาก็เริ่มก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตยุคใหม่เข้ามาแทนที่สัตว์ใหญ่ที่เคยครองโลก คงเหลือเพียงแต่ซากฟอสซิล เถ้ากระดูกให้เราเห็นเพียงเท่านั้น
ซึ่งนอกจากสัตว์บกอย่างไดโนเสาร์แล้วยังมีสัตว์น้ำอีกหลายชนิดที่ต้องสูญพันธุ์ไป เช่น ปลามีเกราะหรือปลาหุ้มเกราะ มันเป็นปลายุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว โดยวิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แอมฟิออกซิส ที่มีกระดูกอ่อนเป็นกระดูกแกนหลักในร่างกาย และกลายมาเป็นปลาปากกลมที่ไม่มีขากรรไกร หลังจากนั้นก็กลายเป็นปลาที่มีเกล็ดแข็งเหมือนเกราะหนาหุ้มตัวอย่างไรก็ตามยังคงมีสัตว์อยู่ 2-3 ชนิดที่ยังคงเหลือรอดและไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เช่น ปลาซีลาแคนซ์และจระเข้ เป็นต้น
สัตว์บางจำพวกก็จะวิวัฒนาการตัวเองขึ้นไปในขั้นที่สูงกว่าเช่น ไทรโลไบต์ มัน เกิดขึ้นโดยมีชีวิตอยู่ในทะเล คล้ายพวกอาร์โทรพอด คือ มีโครงกระดูกหุ้มร่างกายและขาเป็นปล้องๆหลายคู่ โดยนักวิทยาศาสตร์ศึกษาจากฟอสซิลต่างๆที่หลงเหลืออยู่จากอดีต, ปลา ซึ่งมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง มีแผ่นปกคลุมร่างกายแทนเกล็ดหรือไม่มีขากรรไกร ก็ได้วิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆจนเกิดเป็นปลาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา โดยปลาบางชนิดก็ได้ขึ้นมาอยู่บนบก ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นเพราะกลไกของการหายใจและปรับตัวการกินอาหารใหม่ กลายเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง กลายเป็นชนิดใหม่ขึ้นมา
เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีสารประกอบทางเคมีที่สำคัญอยู่ 4 กลุ่มด้วยกัน คือโปรตีน กรดนิวคลีอิค คาร์โบไฮเดรต และไลปิด โดยเชื่อว่ามีการสังเคราะห์ขึ้นในโลกดึกดำบรรพ์ก่อนกำเนิดสิ่งมีชีวิต โดยกระบวนการวิวัฒนาการทางเคมีนักวิทยาศาสตร์จึงได้มีการทดลองและสังเคราะห์สารประกอบต่างๆเลียนแบบสภาวะของโลกดึกดำบรรพ์และอธิบายการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตไว้ 3 สมมติฐาน คือ
• สิ่งมีชีวิตเริ่มแรกมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น
• สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นเองจากสิ่งไม่มีชีวิต
• สิ่งมีชีวิตเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างช้าๆ
การกำเนิดสปีชีส์ใหม่
การกำเนิดสปีชีส์ใหม่ เกิดขึ้นเมื่อประชากรของสิ่งมีชิวิตค่อยๆสะสมความแตกต่างทางพันธุกรรมมากพอ จนกลายเป็นสปีชีส์ใหม่ ทั้งนี้ในการเปลี่ยนเป็นสปีชีส์ใหม่นั้นมีกระบวนการสำคัญมาก คือ การกีดกั้นการผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ขัดขวางหรือป้องกันการผสมพันธุ์ ระหว่างประชากรธรรมชาติ 2 ประชากร ตามหลักเกณฑ์กล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สปีชีส์ใหม่เกิดขึ้นได้
ชนิดของสปีชีส์และซับสปีชีส์ แบ่งออกเป็น 5 ชนิด
• สปีชีส์ทางสัณฐานทางวิทยา
• สปีชีส์ทางชีววิทยา
• สปีชีส์ทางวิวัฒนาการ
• สปีชีส์ชนิดพิเศษ
• ซับสปีชีส์
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ สัตว์ใต้ท้องทะเลลึก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)